ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตั้งด่านเข้มงวด ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพบกับปัญหาหลากหลายในการรับมือกับคนเมาที่มีปัญหาเรื่องการตรวจวัดแอลกอฮอล์
โดยบรรยากาศการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะกำลังตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดกวดขันเมาไม่ขับ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ บริเวณหน้าที่พักสายตรวจตำบลบางสมัคร ถนนเทพรัตน กม.42 ช่องคู่ขนาน ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่2 ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง
เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักที่มีประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงต้องด่านเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากการเมาแล้วขับ โดยมีข้อกำหนดหากเป่าแล้วแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งในเวลา 1 ชั่วโมงสามารถจับกุมผู้ที่เมาแล้วขับระดับแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จำนวน 8 ราย
โดยรายแรกเป็นหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์มาตำรวจได้ทำการเรียกมาเป่าเพื่อวัดผลแอลกอฮอล์ปรากฎว่าต้องทำการเป่าถึง 13 ครั้ง จึงได้ผล 117มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์คำพูดจาก JOKER123
ขณะที่อีกคน ขับรถกระบะมากับเพื่อน แล้วถูกตำรวจเรียกให้เป่า แจ้งว่าห้ามเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถึงจะกลับบ้านได้ พอเป่าก็ได้ค่าอยู่ที่149 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่กลับบอกตำรวจว่าไม่เกิน50มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทำเอาตำรวจต้องนั่งอธิบายกันอยู่นาน งานนี้กว่าจะเข้าใจกันได้ต้องใช้เวลานานเลยทีเดียว ตำรวจถึงกับต้องปวดหัว แต่ละวันต้องเจอกับอะไรบ้าง
ส่วนอีกคนขี่รถจักรยานยนต์มาเติมน้ำมัน ถูกตำรวจเรียกตรวจ นำตัวมาเป่าผลได้ 155 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทางตำรวจจะนำตัวขึ้นรถ แต่ไม่ยอมวางสายโทรศัพท์ และไม่ยอมเดินขึ้นรถ จนตำรวจต้องล็อกตัวจับใส่กุญแจมือ นำตัวส่งดำเนินคดี นอกจากโดนข้อหาเมาแล้วขับยังแถมข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย